[Chapter 2] เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข : ปฏิสัมพันธ์

 


        บทที่ 2 ปฏิสัมพันธ์

        7. เลิก"ยอมเสียสละตัวเอง"

            คนดีมักหลีกเลี่ยงความขัดแย้งหรือแก้ปัญหาด้วยการโอนอ่อนตามอีกฝ่าย แต่คนที่เป็นตัวของตัวเองจะเห็นคุณค่าในตัวเอง แม้ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับผู้อื่นแต่จะไม่ยอมเสียสละตัวเอง เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบก็จะพูดคุยต่อรองเพื่อยืนยันความคิดเห็นของตัวเอง

            หากเราไม่กลัวการขัดแย้งกับผู้อื่นมากเกินไป จะคิดได้ว่า "เลือกคบหาคนที่เปิดเผยตัวตนได้โดยไม่ต้องฝืนจะดีกว่า" ทำให้ดำเนินความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ราบรื่น และเราก็สบายใจด้วย

        8. เลิก "เอาใจทุกคน"

            หลายคนอาจรู้สึกว่าการถูกเกลียดเป็นเรื่องที่น่ากลัว ถ้าเป็นคนที่เอื้อประโยชน์ให้เราได้ เราอาจต้องทำให้เขาชอบก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวหันมาชอบเราก็ได้ เพราะต่อให้เราดีทุกอย่างแล้วก็อาจมีคนไม่ชอบเพราะเราดีกว่าอีกนั่นล่ะ การที่เราจะเป็นที่เราจะเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนจึงเป็นไปไม่ได้เลย และต่อให้เราตัดสัมพันธ์กับคนที่เราไม่ชอบก็ยังมีโอกาสเจอคนใหม่ๆอีกมากมาย

        9. เลิก "ปั้นยิ้มเสแสร้ง"

            เหนื่อยไหมกับการที่ต้องยิ้มให้กับทุกคนทั้งที่ในใจเราไม่ได้อยากจะยิ้มสักหน่อย แต่บางสถานการณ์จะให้ทำหน้าหงิกหน้างอตามใจตัวเองก็ไม่ได้ หากคุณเหนื่อยกับการพบปะผู้คนก็ควรลองจัดตารางการใช้ชีวิตโดยแบ่ง "วันที่พบปะผู้คนกับวันที่ไม่เจอหน้าใครเลย" ให้ชัดเจน

            อีกวิธีที่ช่วยให้เรายิ้มแย้มได้โดยไม่เหน็ดหนื่อย คือ การทำตัวเป็นคนยิ้มแย้มโดยไม่ต้องเสแสร้ง 
ทำได้ง่ายๆ 2 วิธี คือ
            1. การรู้สึกขอบคุณอีกฝ่าย
            2. การแสดงท่าทีเพื่อแบ่งปันความสุขจากการได้อยู่ร่วมกันให้อีกฝ่าย

        10. เลิกนิสัย "ปฏิเสธไม่เป็น"

            หลายคนคงเคยรู้สึกลำบากใจเวลาต้องปฏิเสธคำอ้อนวอนของคนอื่น ตัวอย่างง่ายๆอย่างการขายประกัน การเสนอขายสินค้าต่างๆ บางคนไม่กล้าปฏิเสธหรือกว่าจะเอ่ยปฏิเสธไปได้ก็เสียเวลาไปหลายนาที ดังนั้นคนที่ไม่กล้าปฏิเสธจึงมีแนวโน้มที่ต้องเสียเงินและเวลาเพื่อคนอื่น ในทางตรงข้าม การปฏิเสธเรื่องที่ตัวเองคิดว่าน่าเบื่อคือการให้ความสำคัญแก่ตัวเองและเป็นการใช้ชีวิตอย่างมีค่า

             เราจึงต้องหัดเตรียมคำปฏิเสธไว้ล่วงหน้า หาข้ออ้างปฏิเสธที่เหมาะสมกับตัวเองและทำให้อีกฝ่ายคิดว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้"

            ส่วนตัวเราเพิ่งได้ฝึกการปฏิเสธจริงๆจังๆก็ตอนที่มาทำงานนี่ล่ะ ในแต่ละครั้งที่ปฏิเสธก็จะนึกถึงอนาคตของตัวเองไว้เสมอ อะไรเป็นสิ่งไม่ถูกไม่ควรและส่งผลไม่ดีต่ออนาคตของเรา ต้องกล้าปฏิเสธ ยิ่งบางครั้งที่ต้องเจอพวกโยนงานที่เอาภาระหน้าที่ของตัวเองมาให้คนอื่นทำ ต้องคิดไว้เสมอเลยว่าถ้าเราไม่ปฏิเสธเท่ากับเรารับหน้าที่นั้นมาเป็นความรับผิดชอบของเราแล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระงานโดยไม่จำเป็น

        11. เลิก "อดกลั้นไม่ตอบโต้"

            บางครั้งเราอาจโดนวิพากษ์วิจารณ์แต่คนดีมักไม่อยากตอบโต้ คนที่ปล่อยให้คนอื่นว่ากล่าวอยู่ฝ่ายเดียว แม้เจ้าตัวตั้งใจใช้ความสงบนิ่งเข้าสู้แต่คนอื่นอาจมองว่าพึ่งพาไม่ได้ การไม่ตอบโต้อะไรเลยจะทำให้รู้สึกน่าสมเพช แต่หากรู้จักตอบโต้คำว่ากล่าวที่ไม่มีเหตุผล คนรอบข้างจะมองว่าเราเป็นคนที่พึ่งพาได้

            ประโยคเด็ดง่ายๆที่ใช้ตอบโต้อีกฝ่ายอย่างได้ผลและไม่รุนแรงเกินไป คือการถามกลับไปว่า "แล้วยังไงล่ะ" ใช้การตอบโต้ซ้ำๆให้อีกฝ่ายคิดต่อและรู้ตัวเองว่าสิ่งที่พูดอยู่นั้นไม่มีเหตุผลเลย

        12. เลิก "กลัวการปะทะกับผู้อื่น"

            หลายคนกลัวการปะทะกับผู้อื่น ทำให้เวลาไม่พอใจคำพูดหรือพฤติกรรมของอีกฝ่ายก็จะไม่แสดงออก แต่เราทุกคนไม่สามารถอ่านใจใครได้ หากไม่พูดออกไปอีกฝ่ายก็ไม่อาจเข้าใจความรู้สึกของเราได้ เมื่อเราไม่แสดงออกอีกฝ่ายก็จะไม่มีวันเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ทำให้เราต้องทนไม่พอใจอย่างนั้นต่อไป ดังนั้นจึงควรบอกความไม่พอใจหรือความต้องการของเราออกไป เพื่อทำความเข้าใจเรื่องความแตกต่างของทั้งสองฝ่าย และแก้ไขเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น

        13. เลิก "เก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริง"

            คนดีมักซ่อนตัวตนและความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองไว้ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกถึงเสน่ห์ของเขาได้ยากและไม่กล้าเชื่อใจ แม้จะทำให้ไม่มีศัตรูแต่ก็ไม่มีพรรคพวกที่คอยปกป้องตัวเองเช่นกัน

            คนที่มีเสน่ห์หรือได้รับความเคารพนั้น เป็นเพราะเขาเชื่อมั่นความคิดของตัวเอง แต่หากเราแสดงความคิดเห็นแบบปลอดภัย แทนที่คนจะมองว่า "เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก" อาจมีคนไม่ชอบและคิดว่า "เขาน่ารำคาญจัง" ก็ได้

        14. เลิก "ทำตามคนอื่น"

            คนดีมักปรับตัวเองให้เข้ากับคนรอบข้าง โดยคิดว่าการเออออตามคนอื่นนั้นง่ายกว่าและไม่ต้องรับผิดชอบอะไร จึงมักเอาแต่ทำตามคนอื่นจนตัวตนค่อยๆหายไป

            คนดีมักบอกว่า "ฉันทำไม่ได้หรอก" เพราะไม่มั่นใจ กลัวที่จะคิดหรือตัดสินใจและมองทุกอย่างเป็นเรื่องเสี่ยงไปหมด การจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากสภาพเช่นนี้ เราต้องเชื่อมั่นเกณฑ์และการตัดสินใจของตัวเอง วิธีสร้างความเชื่อมั่นอย่างหนึ่งคือ หาเหตุผลสนับสนุนการตัดสินใจหรือการกระทำทุกอย่างของตัวเอง

        15. เลิก "เกรงใจจนเกินเหตุ"

            คนดีมักขี้กังวลและคิดมากแม้กับเรื่องเล็กน้อยในสายตาของคนทั่วไป พวกเขาสนใจสายตาผู้อื่นและคอยระวังคำพูดหรือการกระทำของตัวเองเสมอ จึงทำให้เกิดความเครียดสะสมได้ง่ายและส่งผลให้สุขภาพย่ำแย่

            วิธีปลดปล่อยความเครียด อย่างแรกคือต้องรู้จักมองโลกในแง่ดี สร้างสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ให้ตัวเองตัดสินใจได้อย่างอิสระ ต่อมาคือการแสดงตัวตนที่แท้จริง และสุดท้ายคือสิทธิ์การตัดสินใจอย่างอิสระ หากสามารถสร้างสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้ และมีวิธีลดความเครียดที่เหมาะสมกับตัวเอง เราก็จะลดความเครียดสะสมลงได้

..................................................................

            เนื้อหาที่เพื่อนๆได้อ่านมาทั้งหมดเป็นเพียงการนำประโยคสำคัญในแต่ละบทมาสรุป และเพิ่มเติมความคิดเห็นของเราลงไปให้ได้อ่านกัน สำหรับใครที่อ่านแล้วรู้สึกว่าสั้นเกินไปหรืออยากได้รายละเอียดมากกว่านี้ก็ตามหาหนังสือมาอ่านกันได้นะคะ เจอกันใหม่บทที่ 3 ความเชื่อ

ความคิดเห็น